วัคซีนทั้งหมดถือเป็นการทดลอง

อย่างที่ทุกคนก็รู้กันดี ว่าสถานการณ์ในยุคปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร วัคซีนป้องกันโรคระบาด มันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกแต่วิตกกังวล  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจหรือแม้แต่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดเองก็ตาม

สำหรับโรคระบาดนี้  มันอยู่กับเรามานานมากแล้วผู้คนทั่วโลกต่างก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ซึ่งเราเองก็ไม่สามารถที่จะตอบได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ มันจะเริ่มดีขึ้นเมื่อใดผู้คนทั่วโลกจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขและไม่ต้องใส่แมสก็หากันนานแค่ไหน 

สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด ก็คือการที่ทุกคนร่วมมือการสวมใส่หน้ากากอนามัย  ล้างมืออยู่ตลอดเวลา  ลดการออกไปพบเจอผู้คนเป็นจำนวนมาก  เพื่อที่จะลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อนั่นเอง 

อย่างไรก็ตามสำหรับในวันนี้เรื่องราวที่เรากำลังจะกล่าวถึงมันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความจริง  ที่ตรวจสอบแล้วเรื่องการทดลองวัคซีน covid19 นั้นเอง 

มีหลายอย่างที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเราที่เรา  ยังไม่สามารถศึกษาและรับรู้เกี่ยวกับบันไดถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวของเรา  อย่างเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน covid19

ในบางอย่างเราคิดว่าเราเป็นอย่างดีแล้วแต่พอเราไปศึกษาดูเฉยๆเรากลับพบว่า  แท้จริงแล้วเราไม่เคยที่จะรับรู้อะไรเกี่ยวกับมันเลยแม้แต่น้อย

สำหรับในวันนี้สิ่ง ที่เรากำลังจะกล่าวถึงนั้น  มีชื่อว่าวัคซีนทั้งหมดถือเป็นการทดลองนั้นเอง มีความเข้าใจว่าวัคซีน covit -19 ทั้งหมดที่ชาวโลกฉีดกันอยู่นี้  เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองและการตรวจสอบเชิงลึกของรอยเตอร์ พบว่า 

คำอ้างนี้ไม่เป็นความจริงกับวัคซีนทั้งหมด  ได้รับการทดลองหรือทดสอบความปลอดภัยมาตรฐานก่อนที่จะเผยแพร่สู่สาธารณชนแล้วมาทั้งสหรัฐอเมริกาและอังกฤษจะอนุญาตให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์ biocontest และ modena mrna เป็นกรณีฉุกเฉิน

ในขณะที่วัคซีนบาง lot ก่อนหน้านี้ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ก็ได้รับอนุญาตตามหลังจาก astrazeneca และการออกใบอนุญาตใช้งานฉุกเฉินหรือ Emergency physician ซึ่งเรียกกันว่า eua ในสหรัฐอเมริกานั้น เป็นการประกาศผลความรุนแรงของการระบาดใหญ่และมี

การระบาดใหญ่สิ้นสุดลง eua ก็จะยุติผลบังคับใช้และผู้ผลิตวัคซีน จะต้องยื่นขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ของสหรัฐอเมริกาหรือ fda เต็มรูปแบบตามเดิมช่วงกรกฎาคมปี 60 ยังไม่มีการเปิดเผยกรอบเวลาที่ eua จะสิ้นสุดลงและในอังกฤษหรือสหราชอาณาจักร

ก็มีข้อกำหนดในลักษณะเดียวกันรอยเตอร์ให้ข้อมูลว่าวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันและ astrazeneca เป็นวัคซีน Better จากไวรัสซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของวัคซีน ที่ใช้ระหว่าง

การระบาดของโรคอีโบล่า และเช่นเดียวกับการพัฒนาวัคซีนต้านโรคไข้หวัดใหญ่ไวรัสซิก้าและ HIV vaccine ทั้ง 2 ชนิดใช้ไวรัสที่ไม่เป็นอันตรายซึ่งดัดแปลงให้มีความอ่อนแอเพื่อส่งเข้าร่างกายวิธีนี้  จะทำให้เซลล์ในร่างกายสามารถสร้างโปรตีนขัดขวางโคโรน่าไวรัส

เกิดเป็นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน  และป้องกันการติดเชื้อดายในขณะเดียวกันวัคซีนไฟเตอร์และโมเดลน่าใช้รูปแบบ Messenger RNA mrna ประจำการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่คล้ายกัน  และวัคซีนเหล่านี้จะเป็นวัคซีน mrna ตัวแรกที่เปิดตัวสู่สาธารณชนทั่วไปเทคโนโลยี ที่อยู่เบื้องหลังนั้นได้รับการพัฒนาเป็นเวลาหลายปีแล้ว